TREND LINE

TREND LINE

  TREND LINE เทรนไลน์ไม่ใช่ Indicator ไม่มีสูตรมาคำนวณ เป็นเครื่องมือที่ผมชอบสุด ใช้จินตนาการ มโนภาพ และประสบการณ์ของคุณเองล้วนๆ  ลากเชื่อมต่ออย่างต่ำ 2 จุดขึ้นไป ไว้ดูเป็นไกด์ไลน์การเดินทางของราคาในอนาคต ไม่ได้เอาค่าของอดีตมาใช้คำนวณเพื่อแสดงผลแบบอินดิเคเตอร์ต่างๆ เพราะฉนั้นจึงอยู่ที่ตัวคุณเองที่จะมองกราฟและตีเทรนไลน์ยังไง ไม่มีข้อกำหนดตายตัวในการตีเทรนไลน์  เราลากหรือตีเทรนไลน์เพื่อช่วยให้มีแนวทางในการเทรด เป็นได้ทั้งเส้นแนวนอน แนวตั้ง แนวตะแคง ในรูปเดียวกัน อยู่ที่คุณเองว่าจะมองจุดไหนมีนัยยะ สำคัญ ยังไง การลาก Trend Line เชื่อม 3 จุด หรือมากกว่านั้นเป็นเส้นตรงขึ้นไป จะเป็น”เส้น Trend Line ที่ควรให้ความสำคัญและมีนัยยะในการวางแนวทางการเทรด (Valid Trend Line) 

การตี หรือลากเทรนไลน์ ก็เพื่อที่จะคาดการณ์การเคลื่อนไหวของกราฟราคาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต มองเห็นแนวรับ แนวต้าน เราจะเห็นว่ามีการตีหลายรูปแบบ เช่น ตีเป็นช่อง Channel คู่กัน ไม่ว่าจะแนวกี่องศาก็ตาม จะขนานหรือไม่ขนาน จะลากเส้นเดียวหรือหลายเส้นก็สุดแต่เทรดเดอร์แต่ละคนจะมอง ทั้งนี้เพื่อหาจุดเข้าซื้อขาย ซึ่งก็จะสไตล์ใครสไตล์มัน หลักๆการเข้าคำสั่งซื้อขายในตลาด FOREX ก็จะมี

- ใช้เป็นจุดเข้า Order ฺBuy หรือ Sell เมื่อกราฟ Break Out เทรนไลน์

- ใช้เป็นจุดเข้า Order Buy หรือ Sell เมื่อกราฟชน เทรนไลน์ แล้วไม่ผ่าน เกิด Reversal หรือการกลับตัว

- ใช้เพื่อที่จะเป็นจุด Stop/Cut Loss หยุด/ตัดการขาดทุนเมื่อผิดทางนั่นเอง 

ลองศึกษาจากภาพในหน้านี้จะมองเห็นภาพ และเข้าใจได้ง่ายและชัดเจนขึ้น

*ลักษณะต่างๆของ TREND LINE 

- ลากเชื่อมจุดอย่างต่ำ 2 จุดขึ้นไป จากจุด High สู่ Low / หรือ Low สู่ High

- ลากเชื่อมจุดอย่างต่ำ 2 จุดขึ้นไป ในแนวนอน เป็นแนว Horizon ลากไว้ช่วยดูเป็นทั้ง แนวรับ และ แนวต้าน

- ในกราฟจะมี Trend Line กี่เส้นก็ได้ และไม่จำเป็นต้องเป็นองศาในแนวเดียวกัน

- Trend Line จะมีนัยยะสำคัญมากขึ้น เมื่อยิ่งลากผ่านจุดหลายๆจุดมากขึ้น

- เรามักจะเห็นการตี Trend Line วิ่งขนานเป็น channel หรือวิ่งเป็นกรอบ

 การตี Trend Line ก็เหมือนการตีกรอบเป็นแนวทางให้เราเอง ว่าจะวางแผนการเทรดในแนวทางไหนในแต่ละวัน กรอบหรือChannelก็แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่ในแต่ Time Frame ด้วย ทั้งก็ยังขึ้นอยู่กับตัวบุคคลว่าจะตี/ลากเส้นกันยังไง *ก็อย่างที่คุณเห็น ชนกรอบ ก็เด้งไปเด้งมา ไม่เด้งก็ทะลุ BreakOut ออกไป อย่างตัวอย่างในภาพข้างล่่าง มีการ break out เทรนไลน์ 3 ครั้ง ซึ่งก็อาจเป็นจุดในการเข้า/ออก คำสั่งซื้อขาย นั่นเอง

 

*โดยปกติผมจะใช้เส้น Trendline ใน Time Frame ใหญ่ เช่น H4 / 4 ชั่วโมงลากเป็นเส้น Horizontal Support (เส้นแนวรับ) และ Resistance Line (เส้นแนวต้าน) หรือจะดูเป็น Channel แล้วตั้งกรอบในการเทรดของตัวเองในแต่ละวัน อย่างรูปข้างบน

Visitors: 83,462